วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกันทำประเทศไทยให้สงบสุขน่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง

“ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันท์ญาติพี่น้อง สองประการนี้คือคุณลักษณะสำคัญของคนไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมือง อยู่รอดเป็นอิสระและเจริญมั่นคงมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาความเป็นไทยนี้ไว้ได้ ชาติบ้านเมืองก็จะดำรงมั่นคงอยู่ตราบนั้น ความเป็นไทยจึงเป็นสมบัติล้ำค่าที่เราต้องถนอมไว้เป็นนิจตลอดไป”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัฐบาลจะมีความก้าวหน้ามั่นคงมากขึ้นตามปณิธานที่ตั้งไว้ในเรื่องความปรองดองของคนในชาติ
สิ่งที่จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จคือ ความรักความสามัคคีของทุกคนในชาติซึ่งจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว
ผูกพันจิต ใจของพวกเราทุก คนไว้ นอกจากนี้ยังรวมถึง ความมีคุณธรรม จริยธรรม ความเป็น เอกภาพในการบริหารประเทศชาติการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า ตลอดจนความมีอุดมการณ์ของการเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นแบบอย่างในการสร้างพลังแห่งความสามัคคีให้กับสังคมและพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธารัฐบาล อันจะช่วยกันนำความสงบสุข และความเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาสู่ประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคนสืบไป
จากเหตุการณ์ทางการเมืองที่สร้างความแตกแยก สร้างความบอบซ้ำอย่างใหญ่หลวงให้กับสังคมคนไทย ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว สามี ภรรยา หรือพี่น้อง ความขัดแย้งทำให้การเกิดปากเสียงหรือพูดง่ายๆความสุขในครอบครัวลดน้อยลงจากความคิดที่แตกต่าง แต่อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆเหล่านั้นผ่านพ้นไป ใช่ว่าความสุขเก่าๆจะกลับมาเหมือนเดิม ความหวาดระแวง การแบ่งฝ่ายก็ยังเก็บซ่อนอยู่ในใจอีกหลายคน ทีนี้เราจะทำอย่างไรที่จะให้คนไทยทุกคนช่วยกันทำประเทศไทยให้สงบสุขน่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าจะพูดไปขณะนี้สังคมไทยถลำลึกตกในวงจรอุบาทว์ความรุนแรง ซึ่งห่วงว่าสังคมไทยจะเป็นสังคมที่บ้านเมืองเกลียดชังกันระหว่างสีต่างๆ เกิดการเมืองแบบแบ่งเขาแบ่งเรา ซึ่งทำให้ยากต่อกระบวนการฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับคืนดังเดิม ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยกันทำการบ้านข้อนี้ ทั้งระยะสั้นและยาว ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาเพียงระยะสั้นที่ทำกันอยู่ในขณะนี้อย่างเดียว เราต้องร่วมกันคืนความเป็นมนุษย์กลับมา และอย่าลืมว่า การให้อภัยเป็นยาสามัญประจำใจ ถ้าเรารู้จักให้ก็จะรักษาความเจ็บปวดได้ การให้อภัยจะทำให้ความบอบช้ำทางใจของเราฟื้นกลับคืนมาได้โดยเร็ว หรือท่านผู้อ่านยังคิดว่าเราจะยังคงเก็บความทรงจำความเจ็บแค้นนี้เอาไว้ให้นานแสนนาน ไม่ยอมแม้แต่คำว่า ”อภัย” ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะหาความสุขในสังคมไทยได้อย่างไร เมืองไทยจะเป็น”สยามเมืองยิ้ม” เป็นเมืองที่น่าอยู่ได้อย่างไร นอกจากคำว่า "อภัย" การละวาง ก็คงจะนำความสุขกลับคืนมาได้เช่นกันนั้นคือ “ ละวางจุดยืนหรือลดทิฐิของแต่ละฝ่ายลง แล้วมานั่งคุยกันเพื่อยุติข้อขัดแย้ง” นี่คงจะนำความสุขกลับคืนมาได้เช่นกัน
------------------------------------------
วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โครงการ"รักษ์น้ำ รักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์หาดเตยงาม"

พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป เป็นประธานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชนีนาถ
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 78 พรรษามหาราชินี
โครงการ"รักษ์น้ำ รักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์หาดเตยงาม"ซึ้งดำเนินการโดย ศูนย์การฝึกนาวิกโยธิน 11 ส.ค.53
โครงการใช้น้ำหมักชีวภาพเทลงในแหล่งน้ำในเขตพื้นที่ศูนย์การฝึกนาวิกโยธิน เป็นการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ทะเลคือหาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธิน เพื่อรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมคืนความสะอาดสู่ธรรมชาติ


น้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ น้ำจุลินทรีย์ คือ สารสกัดธรรมชาติที่ได้จากการนำเอาพืชผักผลไม้
หรือวัสดุต่าง ๆ ที่เป็นสารอินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายได้ รวมไปถึงเศษอาหารจากครัวเรือน ก็สามารถนำมาทำน้ำหมักชีวภาพได้ นำวัสดุดังกล่าวมาหมักกับกากน้ำตาลทรายแดง
ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจนโดยมีจุลินทรีย์ ทำหน้าที่ย่อยสลายวัสดุต่าง ๆ จนได้เป็นสารละลายที่มีความเข้มข้น
คือ น้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพ (Emzyme Ionic Plasma)
เรียก สารสกัดชีวภาพ น้ำหมัก หรือ จุลินทรีย์
คือ ของเหลวสีน้ำตาลที่มีทั้งจุลินทรีย์ และสารอินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกสามารถทำใช้ได้
ทุกครัวเรือน นำผลไม้หรือพืชผักและเศษอาหารมาหมักกับน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลอ้อยหรือกากน้ำตาล
หมัก 15 วัน – 3 เดือน (ยิ่งนานยิ่งดี)
ก็จะได้น้ำหมักที่มีจุลินทรีย์ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเกษตร ทำปุ๋ย
รดน้ำต้นไม้ ชำระล้างคราบสกปรก ซักผ้า ล้างห้องน้ำ ดับกลิ่นเหม็นใน ห้องน้ำ โถส้วม
ท่อระบายน้ำ
จุลินทรีย์ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กไม่สามารถมาองได้ด้วยตาเปล่า อาศัยอยู่ทั่วไปในน้ำในดิน และในอากาศ จุลินทรีย์มีทั้งที่มีประโยชน์และโทษ โทษของจุลินทรีย์ คือ ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้เกิดการเน่าเสียของอาหารแต่จุลินทรีย์ก็มีประโยชน์มากมายเช่นกัน
คือ จุลินทรีย์บางชนิดนำมาทำเป็นอาหารได้ ใช้รักษาโรค ใช้ทำอาหารประเภทหมักดองเป็นส่วนประกอบ ของสินค้าอุตสาหกรรม ช่วยย่อยสลายอินทรีย์ สารทำให้เกิดการหมุนเวียนของพลังงานในระบบนิเวศน์
จุดประสงค์
1.ฟื้นฟูและอนุรักษ์น้ำในคลอง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน (เช่น ร่วมลดขยะนำขยะกลับมาใช้ใหม่ แยกขยะทิ้งขยะให้ถูกที่ บำบัดน้ำเบื้องต้นก่อนทิ้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลาย
น้ำ เป็นต้น)
2.สร้างกลุ่มและเครือข่าย ในการเฝ้าระวังและอนุรักษ์น้ำในชุมชนริมคลอง รวมทั้งคลองซอย
3.ให้ความรู้และรณรงค์ให้ทุกท่านร่วมมือในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำในคลอง
พิธิเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหา มหาราชินี

พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธ๊เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหา มหาราชินี ณ หน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กิจกรรมต่างประกอบด้วย กิจกรรมโครงการ"รักษ์น้ำ รักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์หาดเตยงาม"ซึ้งดำเนินการโดย ศูนย์การฝึกนาวิกโยธิน กิจกรรมปลูกปะการังเทียมอ่าวนาวิกโยธิน กิจกรรมปลูกป่าชายเลนอ่าวทุ่งโปง 11 ส.ค.53
วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553
การแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน

กระทรวงกลาโหม เมืองพัทยา ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ขอเชิญประชาชนชาวไทยร่วมชมการแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน” ครั้งที่ ๒ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นราชสักการะแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้ทรงสร้างคุณประโยชน์คุณูปการแก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์ ในวันเสาร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ บริเวณกลางอ่าวเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยในงานจะมีกิจกรรมบนเวทีจากศิลปินดารานักร้อง รวมถึงการออกร้านขายสินค้า เริ่มงานตั้งแต่เวลา ๑๔๐๐ เป็นต้นไป สำหรับประเทศที่เข้าร่วมแสดงและประกวดในครั้งนี้ ประกอบด้วยประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สาธารณรัฐอิตาลี และประเทศไทย
ดอกไม้ไฟ หรือ พลุ เป็นอุปกรณ์ในหมวดหมู่วัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง ลักษณะของพลุประกอบด้วย เสียง แสง ควัน และเถ้า พลุถูกออกแบบให้เผาไหม้และจุดระเบิดที่แสงสีต่างๆ พลุถูกใช้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก
เชื่อกันว่าชาวจีนเป็นผู้ค้นคิดพลุและดอกไม้ไฟก่อนชาติอื่นๆ (อันเป็นผลสืบเนื่องจากการประดิษฐ์คิดค้นดินปืนของชาติจีนนั่นเอง) เพื่อใช้ในงานรื่นเริง เช่น วันตรุษจีน หรือวันสาร์ทจีน และยังนิยมใช้สืบมาจนปัจจุบัน
การใช้งาน
พลุเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้งานกว้างขวาง โดยทั่วไปพลุจะใช้ในงานแสดง งานบันเทิง และในงานรื่นเริงทั้งในด้านวัฒนธรรมและทางศาสนา
นอกจากนี้ยังมีการใช้พลุเป็นยุทโธปกรณ์ เป็นพลุส่องสว่าง สำหรับนำทาง หรือบอกตำแหน่งในการรบ หรือการลำเลียงทางการทหาร
วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553
กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี เปิดรับสมัครสมาชิกกรณีพิเศษ
กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี กำหนดเปิดรับสมัครสมาชิกกรณีพิเศษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ และเพื่อเป็นการกุศลและสงเคราะห์ครอบครัวโดยไม่หวังผลกำไร โดยเปิดรับสมัครข้าราชการ ลูกจ้าง ผู้มียศทหารเรือและคู่สมรส อายุเกิน ๔๕ ปี แต่ไม่เกิน ๕๕ ปี (๒๔๙๘-๒๕๐๘) กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ มีกำหนด ๒ เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แผนกฌาปนกิจฯ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๑๑ ๕๘๘๑
ข้อมูล ข่าวสาร ทร.
๒ ส.ค.๕๓
ข้อมูล ข่าวสาร ทร.
๒ ส.ค.๕๓
วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)