วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

วันครอบครัว


วันที่ 13 เมษายนของทุกปีนอกจากเป็นวันสงกรานต์ที่เราคนไทยได้ยึดถือเป็นประเพณีอันดีงามสืบต่อกันมาตั้งแต่ โบราณกาลแล้ว ถัดมาอีก 1 วันคือวันที่ 14 เมษายน ของทุกปีซึ่งคาบเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์เป็น “วันครอบครัว” ทั้งนี้ก็ เพื่อมุ่งหวังจะให้มีการฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีแต่ดั้งเดิมซึ่งได้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวการณ์ของเศรษฐกิจบ้านเมือง อีกทั้งยังเป็นช่วงที่คนไทยส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาทำบุญเทศกาลสงกรานต์ จึงถือเป็นโอกาสรวมญาติ รวม ครอบครัว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการี รดน้ำดำหัว ขอพรผู้เฒ่าผู้แก่ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และเพื่อความ อบอุ่นเป็นสุขของครอบครัว ตามประเพณีไทยที่เคยปฏิบัติกันมาและรัฐบาลที่ผ่านมายังได้กำหนดให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบ ครัว เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของสถาบันครอบครัว และใช้เวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์ร่วม กันอีกทั้งยังส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างสมาชิกในครอบครัวและสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้สังคมไทยเป็นสังคม ที่มีครอบครัวแข็งแรง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสังคมไทยในด้านต่าง ๆ ได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของสังคม บุคคลจะไม่สามารถพัฒนาไปได้ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ถ้าปราศจาก ครอบครัวที่ดี ดังนั้น การปลูกฝังให้บุคคลของชาติเป็นคนดีมีคุณภาพต้องเริ่มกันที่ครอบครัว ครอบครัวคือสถานที่บ่มฟักลักษณะ นิสัยที่ดีงามให้แก่เด็ก ๆ โดยมีผู้ใหญ่ให้การดูแลสนับสนุนอย่างใกล้ชิด ลักษณะครอบครัวไทยจะมีผู้ใหญ่คอยดูแลสั่งสอน อบรม ลูกหลานจึงมีความได้เปรียบในการสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัวแม้ว่าในปัจจุบันครอบครัวไทยจะเปลี่ยนแปลงไปตาม ภาวะเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ครอบครัวเล็กลง คือมีเพียงพ่อแม่และลูกเท่านั้น แต่เรายังมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามและ ส่งเสริมสถาบันครอบครัว หรือกล่าวอีกนัยก็คือ เรายังมีผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นปู่-ย่า, ตา-ยาย คอยให้การดูแลสนับสุนอย่างใกล้ชิด ซึ่งลักษณะครอบครัวไทยตั้งแต่อดีตมานั้นเป็นครอบครัวที่มีคุณลักษณะพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะในด้านความ สัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ซึ่งมีการเคารพต่อผู้อาวุโสการเชื่อฟังหัวหน้าครอบครัว และความเอื้ออาทรต่อกันในหมู่ญาติ พี่น้อง อีกทั้งยังมีผู้ใหญ่คอยดูแล สั่งสอน และอบรมลูกหลาน คุณลักษณะเหล่านี้ได้ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย ทำให้เป็นสังคมแห่งการสมานฉันท์และช่วยเหลือเกื้อกูลกันแม้มีปัญหาหรืออุปสรรคใดเกิดขึ้นก็พร้อมจะหันหน้ามาปรึกษากันจนปัญหาทุเลาลงไปนำไปสู่สายใยรักและสายใยครอบครัวที่มีดุลยภาพพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กันด้วยความรักและความผูกพัน จึงมีความได้เปรียบกว่าคนชาติอื่น ๆในการสร้างความรักและความอบอุ่นในครอบครัวสิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นที่คนไทยจะต้องช่วยกันดำรงรักษาไว้และเสริมสร้างให้เข้มแข็งยิ่งๆขึ้นไป
บทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวที่พึงปฏิบัติต่อกัน
1. ให้ความรัก ความอบอุ่นและความเอื้ออาทรต่อกัน
2. หันหน้าเข้าหากันและยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
3. ช่วยเหลือ ดูแล เกื้อกูล ซึ่งกันและกัน
4. ดูแลเอาใจใส่และให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น
5. รู้จักวางแผนการใช้จ่ายอย่างประหยัด/ไม่ฟุ่มเฟือย
6. รู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน
7. ปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวรวมกันเช่น การเข้าวัดอบรมปฏิบัติธรรมนำครอบครัวอบอุ่นครอบครัวสนุกกับห้องสมุด ศิลปะสุดสัปดาห์
หลักในการปฏิบัติในชีวิตประจำวันที่ง่าย ๆ สำหรับครอบครัวคือ ใช้หลัก 5 อ.
1.อ. อภัย เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดพลาดไปบ้างให้นึกถึงคำว่าอภัยเสมอ และจะไม่นำเอาสิ่งที่ผิดพลาดนั้นมาพูดซ้ำเติมอีก
2.อ. เอื้อเฟื้อ สมาชิกทุกคนในครอบครัว ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่าคิดว่าไม่ใช่เรื่องของฉันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน ฉันไม่เกี่ยวเช่น คุณพ่อซักผ้า แม่ถูบ้าน ลูกล้างจาน อย่าคิดว่าเป็นงานของใครคนใดคนหนึ่ง
3.อ. อารมณ์ขัน ฝึกให้มีอารมณ์ขันเสียบ้าง มีการกระเซ้าเย้าแหย่กันบ้างในบางโอกาสอาจเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เพื่อนและพี่สำหรับลูกก็ได้
4.อ. อดทน อดกลั้น อดออม ชีวิตครอบครัวที่จะต้องมี 3 อ นี้ด้วย อดทนต่อความยากลำบากต่าง ๆ ในครอบครัวอดกลั้นต่อ สิ่งที่มากระทบจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือกิเลสที่มากระตุ้นเราให้หลุ่มหลง และให้รู้จักอดออมเงินทองที่หามาได้แบ่งไว้ใช้เป็นสัด ส่วน ส่วนที่หนึ่ง ใช้จ่ายในครอบครัวส่วนที่สองสำหรับการศึกษาของบุตร สวนที่สามสำหรับค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามเจ็บไข้ ส่วนที่สี่บริจาคทานทำบุญสร้างกุศลไว้เป็นเสบียง เมื่อยามจะจากโลกนี้ไป แล้วอีกส่วนหนึ่ง เก็บออมไว้ใช้เมื่อยามแก่เฒ่า
5.อ. อบอุ่น เมื่อเราปฏิบัติได้ 4 อ. ข้างต้นแล้ว อ.ที่ 5 ก็จะตามมาอย่างแน่นอน คือ อบอุ่น เมื่อสมาชิก ทุกคนรู้หน้าที่และบทบาทของตัวเองแล้ว ชีวิตครอบครัวก็คงหนีไม่พ้นคำว่า “สุขภาพจิตเริ่มต้นที่บ้าน” ดังคำขวัญที่ว่าไว้อย่างแน่นอน จากหลักในการปฏิบัติในชีวิตประจำวันจะเห็นได้ว่า สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างมีบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบและความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะการเสียสละเวลาแก่ครอบครัวเพื่อสร้างความสุขความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในบ้าน เพราะการได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากเท่าใดทุกคนในครอบครัวจะมีโอกาสได้พูดคุยอบรมสั่งสอน รับฟังความคิดเห็น ให้ความช่วยเหลือหรือมีคำแนะนำที่ดีให้แก่กัน สร้างความผูกพัน ความรักใคร่สามัคคีและที่สำคัญคือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกหลาน เมื่อเขาเจริญเติบโตขึ้นในอนาคต วันครอบครัว จึงถือเป็นวันที่มีความสำคัญวันหนึ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเพราะเป็นวันที่รวมความหมาย ของความอบอุ่นในครอบครัวเพื่อมอบแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งไม่เพียงแต่เฉพาะในวันครอบครัวเท่านั้น แต่หมายถึงทุกวันที่มีโอกาสด้วย

ในเทศกาลวันครอบครัวนี้เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ ทั้งการงานและครอบครัว
ท่านได้ดูแลครอบครัว(คู่ชีวิต ลูก พ่อ แม่ พี่น้อง) ดีแล้วหรือยัง ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น